ที่เชียงใหม่ ทต.ป่าไผ่ มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประธานสภาฯมีเรื่องถามที่ต้องการคำตอบ?

          ที่ผ่านมาหากมีปัญหาร้องเรียนให้ตรวจสอบว่ามีการทุจริตต่อหน้าที่ของข้าราชการ นักการเมือง เรามักจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าในการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเป็นการกล่าวหากันในวงราชการหรือในทางการเมืองเรื่องของการขัดแย้งผลประโยชน์กันหรือไม่อย่างไร ส่วนใหญ่เราพบว่าการกล่าวหามีมูลความจริงและเป็นเรื่องขัดแย้งกันในวงราชการหรือในทางการเมือง เรามักจะไม่ใส่ใจในความขัดแย้งดังกล่าวเนื่องจากเราเห็นว่าประชาชนไม่ได้ประโยชน์ในการแก้ไขความขัดแย้งเรามักจะปล่อยให้คู่ขัดแย้งแก้ปัญหากันเอง เรายึดหลักสื่อมวลชนไม่ควรเป็นเครื่องมือให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำลายล้างอีกฝ่าย แต่หากปัญหาความขัดแย้งได้รับการแก้ไขประชาชนได้ประโยชน์เราในฐานะสื่อมวลชนควรที่จะเข้าไปทำความจริงให้ปรากฏเพราะเป้าหมายของเราอยู่ที่ประชาชน

          ที่ตำบลป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่นี่มีนายกเทศมนตรีตำบลป่าไผ่ ทำหน้าที่ “บริหารงบประมาณเกี่ยวกับการพัฒนาคนและทุกสรรพสิ่งในเขตเทศบาล” ตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด และที่นี่มีกำนันตำบลป่าไผ่ทำหน้าที่ “อธิบดีตำบล” ตามที่กฎหมายกำหนดเช่นกัน ที่นี่มีความขัดแย้งกันระหว่าง “นายกเทศมนตรี กับอธิบดีตำบล” อธิบดีตำบล ผู้ใหญ่บ้าน และประธานสภาเทศบาลตำบลป่าไผ่ ได้ร่วมกันกล่าวหาว่านายกเทศมนตรี ทำหน้าที่ไม่โปร่งใส ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ ทำให้เทศบาลตำบลป่าไผ่ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนตำบลป่าไผ่ได้รับความเสียหายหลายอย่างทำให้ “อธิบดีตำบล” ทนไม่ได้รวบรวมพยานหลักฐานถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ รับหนังสือ เลขรับที่ 2073 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2555 ด้วยข้อกล่าวหาที่จังหวัดเชียงใหม่น่าที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วด้วยการยึดถือเอาประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก

          จากข้อกล่าวหานายกเทศมนตรีตำบลป่าไผ่ ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ อนุมัติจ้างเหมางานก่อสร้างโดยวิธีพิเศษมีมูลค่า 40 ล้านบาทให้ หจก.นิติชัยการช่าง เข้าทำสัญญาโดยไม่ผ่านการเสนอราคาตามระเบียบที่ทางราชการกำหนด มีการกล่าวหาว่ามีการรับเรียกเงินจากคู่สัญญาเป็นเงินกว่าสี่แสนบาท “อธิบดีตำบล” อ้างข้อพิพาทจากอนุญาโตตุลาการ คดีหมายเลขดำที่ 50/2553 ต่อมาคู่สัญญาได้ฟ้องคดีให้เทศบาลตำบลป่าไผ่ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินสามล้านกว่าบาท “อธิบดีตำบล” อ้างเรื่องดังกล่าวสามารคตรวจสอบข้อเท็จจริงได้จากสถาบันอนุญาโตตุลาการ โทร.02-5412298-9 ต่อ 129 (นางวนิดา คำแฝง) นิติกร

          “อธิบดีตำบล” เปิดเผยต่อไปว่าได้รับการร้องเรียนขอให้ช่วยเหลือกรณีนายกเทศมนตรีตำป่าไผ่ใจร้ายกับพนักงานเทศบาลด้วยการขอแบ่งเงินโบนัส ประจำปี 2554 ในอัตรานายกฯครึ่งหนึ่ง พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ครึ่งหนึ่งหากไม่ให้โบนัสปี 2554 ไม่มีเบิกจ่ายทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่จำใจให้ไปด้วยความขมขื่นใจ เรื่องนี้ “อธิบดีตำบล” ยืนยันหากมีการตรวจสอบจริงพนักงานเจ้าหน้าที่มีหลักฐานมาแสดงที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินโบนัส

          ประธานสภาเทศบาลตำบลป่าไผ่ ร้องเรียนว่านายกเทศมนตรีฯขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อโอนเงินค่าครุภัณฑ์ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2554 โดยที่ “อธิบดีอำเภอ” นายอำเภอสันทราย ยังไม่ได้อนุญาต เมื่อประธานสภาฯทราบว่า “อธิบดีอำเภอ” ยังไม่อนุญาต จึงได้สั่งยกเลิกการประชุมและแจ้งที่ประชุมว่าการประชุมครั้งนี้เป็นโมฆะไม่มีผลทางกฎหมายเนื่องจากนายอำเภอยังไม่ได้อนุญาต แต่นายกเทศมนตรีฯ ได้โอนเงินกว่าล้านห้าแสนบาทไปใช้ทำให้เทศบาลได้รับความเสียหาย สามารคตรวจดูหลักฐานได้ที่กองคลังเทศบาลตำบลป่าไผ่ได้ในวันเวลาราชการ

          ประธานสภาฯ กล่าวหาต่อไปว่านายกเทศมนตรีฯใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยการซื้อที่ดินไม่เป็นไปตามระเบียบที่ทางราชการกำหนดกล่าวคือโครงการดังกล่าวไม่อยู่ในเทศบัญญัติงบประมาณประจำปี 2555 และในแผนพัฒนาสามปี ตรวจสอบหลักฐานได้ที่กองช่างและกองคลังเทศบาลตำบลป่าไผ่ได้ในวันเวลาราชการเช่นกัน และจากหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่(เลขรับที่2073) มีการกล่าวหาอีก จากข้อ 6 ถึง ข้อ 14 ตามที่ “อธิบดีตำบล” ร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในข้อกล่าวหา 14 ข้อ หากผิดจริงตามข้อกล่าวหาไม่ต้องทั้ง 14 ข้อ ขอเพียงผิดจริงข้อใดข้อหนึ่ง ถึงวันนี้เชื่อว่าข้อกล่าวหาที่ “อธิบดีตำบล “ ผู้ใหญ่บ้าน และประธานสภาฯ กล่าวหาว่าท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ใส่ใจดูแลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ โดยเฉพาะเทศบาลตำบลป่าไผ่ ที่นายกเทศมนตรีตำบลป่าไผ่ใส่ใจท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่เป็นพิเศษ เป็นเรื่องจริง

          อธิบดีตำบลป่าไผ่ ปล.ต่อท้าย ตามหนังสือ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เลขที่รับ 4236 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2555 เรื่องมีอยู่ว่าเทศบาลตำบลป่าไผ่ สอบราคาจ้างเหมาสร้างถนน คลส. ระหว่างหมู่ที่9 บ้านหนองเต่าคำใหม่ ถึงหมู่ที่2 บ้านหนองเต่าดำ ระยะทาง 1 กิโลเมตร งบประมาณ 3,770,000บาทขาดความโปร่งใสด้วยการปกปิดข้อมูล โดยใช้กรณีพิเศษทำให้ไม่มีการแข่งขันราคา ไม่ต้องบอกว่าใครได้ประโยชน์ ขอโทษเรื่องดังกล่าวที่กล่าวมาถ้าทางจังหวัดเชียงใหม่ใส่ใจจริงจัง “คำถามที่ถามต้องมีคำตอบ” ไม่เฉพาะ อธิบดีตำบลป่าไผ่ ผู้ใหญ่บ้าน ประธานสภาเทศบาลตำบลป่าไผ่ เท่านั้นที่สนใจ ประชาชนป่าไผ่ส่วนใหญ่ก็ใคร่ขอคำตอบอยู่เช่นเดียวกัน...

ฉลามขาว เมืองปักษ์